การงานอาชีพอะไรที่จะอยู่ไปกับเราทั้งชีวิต:
เพื่อนๆ มนุษย์เงินเดือนคะ ล้อมวงกันเข้ามาฟังอะไรที่แตกต่างดูค่ะ (หรือใครที่มีลูกหลานเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน)มนุษย์เงินเดือนทุกคนก็ว่าได้ มักได้รับการปลูกฝังแนวคิด ฝังไว้ในหัวเลยว่า เวลาดูว่าจะไปทำงานที่บริษัทหรือองค์กรใด …คุณต้องดูว่า career path (เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ) ขององค์กรนั้นเป็นอย่างไร...ใช่มั้ยคะ …ก็ไม่ผิดหรอกที่จะคิดอย่างนั้น แต่วันนี้อยากให้พลิกมุมคิดสักนิดค่ะ
แทนที่เราจะไปถามเค้าว่าบริษัท/องค์กรนั้นมี career path อย่างไร เรามาลองคิดว่า เราเองต่างหากต้องเป็นคนพิจารณาด้วยตัวเองก่อนว่า สายงานอาชีพที่เราทำอยู่ หรือเราอยากจะทำนั้น มันมี career path ในตัวมันเองได้อย่างไร ชุดทักษะที่มีในสายงานนั้นๆ (ที่คุณกำลังทำอยู่) มันจะเป็นฐานนำไปสู่ความเติบโตในสายอาชีพใดได้บ้าง ไม่ว่างานประจำรับเงินเดือน หรือจะต่อยอดไปเป็นนายตัวเอง มีกิจการของตัวเอง หรือสานต่อกิจการของครอบครัว
ความหมายคือ การที่คุณอยากรู้หรือจ้องดูแต่ career path ของบริษัทนั้นๆ นั่นคือ คุณกำลังเอาชีวิตทั้งชีวิตของคุณเองไปแขวนไปกับคนอื่น …เกิดวันนึงมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างใหญ่หลวงต่อบริษัทนั้น ส่งผลต่องานอาชีพของคุณ เช่น บริษัทปิดตัว ถูกซื้อไปควบรวมกับบริษัทอื่น โครงสร้างและวัฒนธรรมการทำงานเปลี่ยนไป หรือ แจ็คพ็อตคุณเป็นคนที่ถูกเลือกให้ออกไปจากบริษัท ชีวิตอยู่มาดีๆ บริษัทก็เลิกจ้างคุณโดยแทบไม่ทันตั้งตัว …คุณต้องหางานใหม่ ณ วันที่ คุณอายุล่วงเลย 30 ปลายๆ หรือทะลุ 40 ไปแล้ว คุณก็จะต้องเริ่มไปหางานใหม่ ในวัยที่ควรจะเริ่มมีความมั่นคงในชีวิต …คุณก็จะดูอีกว่า บริษัทนั้นให้ผลตอบแทนอย่างไร มี career path ในชีวิตอย่างไร ก็เท่ากับไปฝากชีวิตไว้กับคนอื่นอีกต่อไป …
แต่ถ้าชีวิตคุณถึงจุดเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้น…คุณมีอายุมากขึ้น ความสามารถ ทักษะสำคัญๆ สำหรับชีวิตงานยุค 4.0 คุณมีน้อยมาก (เพราะมัวแต่คิดฝันถึง career path ของบริษัทเดิม หรือรอเค้าพัฒนาคุณ ตัวเอง ไม่เคยคิดพัฒนาตัวเองอะไรด้วยตัวเอง นั่งรอว่าบริษัทจะส่งคุณไปเรียนอะไรเพิ่มเติม) คุณก็จะหางานได้ยากขึ้น ทำไงล่ะทีนี้ ….
จึงอยากบอกว่า ทุกวันนี้ที่คุณกำลังทำงานอยู่ ไม่ว่าที่ใดก็ตาม …คิดต่อนะคะ อะไรคือ career path ของงานอาชีพนั้น หมายถึง career path ที่คุณจะต่อยอดด้วยตัวเองได้ …ถ้าไม่ใช่งานที่นั่งทำอยู่ทุกวันนี้ คุณเดินออกไปจากตรงนี้ คุณจะไปทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะไปทำงานให้บริษัทอื่น หรือ ไปสร้างธุรกิจของตัวเอง เป็นนายตัวเอง เป็นสตาร์ทอัพ เป็น เอสเอ็มอี หรือมีชีวิตสายฮิปสเตอร์ …ที่ซึ่งคุณอยากไปต่อ คิดให้ตกผลึกเลยค่ะว่า ถ้าคุณอยากเติบโตไปในทิศทางใด ในสิ่งนั้น…. ประสบการณ์ที่คุณมี มันมากพอมั้ยที่จะไปต่อ และ อะไรคือ skill sets ชุดทักษะที่คุณต้องมี …เมื่อคิดได้แล้ว….ไม่ต้องรอให้ใครนำมันมาป้อนให้คุณ…คุณทำแผนพัฒนาตัวเอง.. ออกไปหาสรรพวิชานั้นด้วยตัวเอง ลงทุนกับอนาคตของตัวเองค่ะ อย่ารอให้ใคร (บริษํท/องค์กร) มาคิดแทนเราหรือจัดการให้เราว่าเราควรต้องเรียนอะไร อย่าไปคิดว่าก็เรียนฟรีนี่ เรียนๆ ไปเถอะ แต่จริงๆ คิดดีๆ นะคะ ไม่มีอะไรฟรี เพราะเวลาที่ตัวเองใช้ไปกับเรื่องอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งมีค่า อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่
สรุปสั้นๆ นะคะ …เวลาจะไปทำงานอะไร ที่ไหน …ก่อนที่จะสนใจว่า หน่วยงานนั้นเค้ามี career path อย่างไร แรกสุด ให้ดูว่า อาชีพ/ตำแหน่งงานที่คุณจะไปทำนั้น มันมี career path ของตัวมันเองอย่างไรที่คุณจะสามารถพัฒนาตัวเองให้ไปในทางนั้นได้…
และอย่าลืม 4P ที่เคยบอก…Passion, Purpose, Plan, Practice … อนาคตของเรา เราต้องเป็นผู้กำหนดด้วยตัวเองและสร้างเองได้ค่ะ
ปล. ตั้งแต่ทำ sales training มา เคยถามในชั้นเรียนว่า มีใครเคยเรียนเรื่อง selling skills ด้วยการลงทุนหาวิชาเรียนเองมั้ย …ไม่เคยมีใครยกมือเลยค่ะ … เอ้า…งั้นเปลี่ยนคำถาม…มีใครเคยซื้อหนังสือเกี่ยวกับ sales skills มาอ่านเพื่อเป็นการพัฒนาตัวเองมั้ย …มีคนยกมือค่ะ …แต่น้อยมาก และบางชั้นเรียนก็ไม่มีเลยสักคน…ดิฉันเรียกสิ่งนี้ว่า …วิกฤติแห่งการตื่นรู้ในตัวเอง… หลายคนไม่มีความดิ้นรนกับ career path ของตัวเองในแบบที่ทำด้วยตัวเอง...ส่วนมากรอเพียงว่าบริษัทหรือองค์กรจะมอบอะไรหรือจะวาง career path ให้กับตัวเองอย่างไร …เป็นความคิดที่เสี่ยงมากต่อหนทางขีวิตข้างหน้า